แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Siranya

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
11
บทความ (Blog) / Re: สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔
« เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 09:27:21 am »
สวัสดีวันหยุดจร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆพักผ่อนให้เต็มที่นะค่ะ

12
บทความ (Blog) / Re: สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔
« เมื่อ: มกราคม 04, 2011, 09:29:30 am »
สวัสดีปีใหม่และสวัสดีวันทำงานวันแรกของปี54 คิคิ เต็มกับการทำงานนะค่ะ

13
บทความ (Blog) / สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔
« เมื่อ: มกราคม 02, 2011, 11:51:08 am »

14
บทความ (Blog) / Re: มีใครเคยรู้สึกแบบนี้บ้าง....:-(
« เมื่อ: ธันวาคม 08, 2010, 10:56:10 pm »
อะไรมันจะเกิดก็ห้ามมันไม่ได้อยู่แล้วปล่อยมันแล้วคอยตามดูสิว่ามันจะไปถึงไหน...เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับเจ้ปล่อยมากจนชินแล้วละนู๋ฝน
สู้มันต่อไปนะอย่าท้อค่ะ ถ้ามันเหนื่อยมากก็หยุดพักก่อน เจ้เป็นกำลังใจให้นะค่ะ โทรมาคุยบ้างสิฝน อย่าอยู่คนเดียวอย่างน้อยยังมีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ
อยู่ในใต้ร่มธรรมนะ ทุกคนพร้อมเป็นกำลังใจให้นู๋นะ :46: :46: :46:
 :13: :13: :13: :13: :13: :13: :13:

15

เห็นพระพักตร์ พ่อแย้มยิ้ม ลูกอิ่มทรวง
ใจล้านดวง ปวงประชา พาเปรมปรีย์

...รักพ่อหลวง...ของปวงประชา

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ

16

จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึง พ่อ
เรียง “รัก” ทอร้อยถัก “ตัวอักษร”
“ลูกรักพ่อ” แม้บอกฝากจากกาพย์กลอน
“รัก” แน่นอน จากลูกมั่นลูกสัญญา
ลูกของพ่อจะเดินทางอย่างเชื่อมั่น
สู่ “ปลายฝัน” อนาคตอันสดใส
แม้อุปสรรค์จะขวากขวางบนทางไกล
“ลูกสาวพ่อ” จะก้าวไปไม่แคลนคลอน

คิดถึงพ่อค่ะ
จากลูกสาวที่พ่อบอกว่า"ไม่โตสักที"
]

17
บทความ (Blog) / Re: FW: ทำไม??กรุงเทพถึงไม่ถูกน้ำท่วม
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 02:23:28 pm »
อ้าว...อื๋ม...ไปลอยกระทงที่ไหนคืนนี้... :23: :23:

18
ขอบคุณและอนุโมทนากับบทความดีๆที่เอามาให้อ่านค่ะ

19
บิดามารดาบุพการี (พระอริยะในบ้าน) / Re: "พ่อ...ลูก"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 12:16:56 pm »
ใกล้วันพ่อแล้วเรามาทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรากันเถอะ
เพื่อนๆจะทำอะไรกันบ้าง เขียนลงในกระทู้นี้ได้เลยค่ะ

20
บทความ (Blog) / FW: ทำไม??กรุงเทพถึงไม่ถูกน้ำท่วม
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 11:51:47 am »

 :13: :13: :13: :13: :13: :13: :13:

เมื่อคุณเปิ ดแล้ ว

ข อร้ องว่าจะ ต้อ งอ่านใ ห้จบ

เพราะมั นสำคั ญต่ อชีวิ ตเราแ ละ

ลูกห ลานในอนาคต

จาก Forword Mail in my Blog : นิมิตหลวงพ่อโอภาษี

พอดีเมื่อวานมีเพื่อนส่ง เมลล์มาให้

อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

อ่านไปหลังๆแล้วขนลุกมาก

ถ้าเคยอ่านแล้วขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
.....

เครดิต - จากใครซักคน -*-



พอดีเมื่อวานไปถวายเทียน พรรษา
ที่วัดหลวงพ่อโอภาษีครับ


คิดว่าเพื่อนๆที่อยู่แถวพระราม 2 คงรู้จักกันทุกคน
เข้าเรื่องเลยนะครับ
ผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เข้าไปถึงกุฎิที่พ่อผมบอกว่า
เป็นพี่ชายของเจ้าอาวาส
เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ 70 ตาซ้ายเสีย อ่ะครับ

เห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมากก็เข้าไป ถวายเทียนพรรษา
พร้อมๆกับอีกหลายๆคน ที่มาหาหลวงพ่อเช่นกัน
พอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็ เล่าว่าท่านนิมิต(ฝัน)ว่า

ท่านได้ไปนรกครับไปเจอเท้าเทพ สุวรรณ(ยมฑูต)
ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วเหรอ ?

สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตาย แต่จะพาไปเที่ยว
แล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป เดินไปเรื่อยๆ
จนถึงระยะหนึ่ง หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำ
ก็เดินกลับมาครับ แล้วถามว่า หยุดทำไม ?

ท่านก็ตอบว่า เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเลย
ระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกา ศของนรกว่า
นรกมีไฟเพลิงสีส้มแดง แต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อน
ที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมี บุญดีอยู่
แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่า อยากเห็นอะไรละ ?
ท่านตอบว่า อยากเห็นต้นงิ้ว และกะทะทองแดง
สุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลกขึ้นมาเองทั้งนั้น
ในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์ เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้เอง
ท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ เหวที่มีไฟแดงฉาน
อยู่ข้างล่าง
สุวรรณบอกว่า ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุด
ทำกรรมชั่วน้อยก็จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบน
คราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทางสามแพร่ง
มีน้ำกันอยู่ จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไร
สุวรรณตอบว่านี่คือทางไป นรก สวรรค์ โลกมนุษย์
ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลก เยอะมากๆ
มีบางคนแอบซุกเพื่อหลบน้ำ ที่จะต้องผ่าน
ท่านจึงถามว่าน้ำนี่คือ อะไร
สุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะ ล้างจิตใจ ให้ลืมอดีต
แล้วไปเกิดใหม่ คนที่หลบหลีกน้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์
( ที่เข้าใจคือระลึกชาติได้)

แล้ว ท่านก็เล่าว่า พวก สส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่า
เหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็ได้กิน
เมื่อต้นแอปเปิ้ลหมดก็อด กิน ก็เหมือนกับพวก สส.
ที่กินบุญเก่าอยู่ เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้าได้ ต้องรอ
ให้เค้าหมดบุญไปเอง

หลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่า วิญญาณมนุษย์
ไปเกิดก็เยอะ แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะ
ทำไมไม่จับมาให้หมด สุวรรณก็ตอบว่า
จับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมด อายุขัย ร่างกายคนเรา
มี สังขาร (ร่างกาย) และจิตวิญญาณ เมื่อละสังขารแล้ว
แต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คือยังไม่ถึงที่ตาย เช่นพวก
ฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่
ในโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ละ วิญญาณแล้ว
ถึงจะไปรับมาได้ ท่านจึงถามต่อว่า

พ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม ?
สุวรรณตอบว่า ท่านสิ้นอายุขัยแล้วแต่มีคนต่ออายุขัยให้ท่าน
ซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเอง


แล้ว ประเทศไทยละจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
สุวรรณ ตอบว่า บอกไม่ได้
แล้ว หลวงพ่อก็เดินต่อไปอีก
คราว นี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน
ซึ่ง มองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่านเห็นคือ
ม้าตัว ผอมเซียว ซึ่งมี พระเจ้าตาก และ พระปิยะมหาราช ยื่นขวาง
ลำน้ำอยู่
ท่านบอก ว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆ
ช่วย ไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม
จริงๆ กรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้ว
แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้า จะหมดแรง
จาก ความหนาวของน้ำ
และ การอดอาหารมานาน

หลวง พ่อท่านพูดจบ
น้ำตา ท่านก็ไหลออกมา

แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับ ฟัง
เรื่องราวของท่านว่า เป็นนิมิตของท่าน
จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะท่านก็ยังคิดว่า
เป็นความฝันของท่าน...

แต่ ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า
เวลาไป ที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้า
หรือ ที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี พระบรมรูป
ให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากิน
ล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
เพื่อ ให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้

ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมอง ข้ามไปจริงๆ
เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้
ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมัน แปลกมากที่อยู่ๆ
เข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็ เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
ในเมื่อมีโอกาสได้รับรู้ก็ควรเผย แพร่
แก่ทุกๆคนครับ

ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ แต่อันนี้
สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ

ขอบคุณครับ/ค่ะ [/size
]

 :45: :45: :45: :45: :45: :45: :45:

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12