เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. 261
ศาสตร์สุขภาพแห่งการบำบัด / Re: เวลา เชื่อมโยงกับการหมุนเวียนของระบบร่างกายยังไง ???« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 01:40:03 PM »
นึกว่ามั่วเก่งคนเดียวหรอ พี่ก็มั่วเป็นนะเฟ้ย 555+
262
ปัญหาชีวิต ความทุกข์ ความรัก / Re: เหตุสมควรโกรธไม่มีในโลก--รู้แต่ระงับยากจริงๆค่ะ« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 01:32:27 PM »
ไม่โกรธ แต่งอนพี่เพียวแล้ว ทิ้งน้อง ชิ
263
ศาสตร์สุขภาพแห่งการบำบัด / เวลา เชื่อมโยงกับการหมุนเวียนของระบบร่างกายยังไง ???« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 01:29:13 PM »
เวลากับสุขภาพแบบฉบับของจีน
ทั้งหมดนี้เป็นการหมุนเวียนของพลังงานในร่างกายใน 24 ชั่วโมง เป็นทฤษฎีการดูแลสุขภาพของจีนที่มีอายุมากว่า 5000 ปี เวลา 21.00-23.00 น. ร่างกายจะสะสมพลังงานรวม.. พลังงานของร่างกายจะสร้างช่วงนี้เท่านั้น..จึงควรพักผ่อนเข้านอน 3 ทุ่ม ถ้าหากไม่เข้านอนช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะมีพลังงานเพื่อช่วยเหลือกระบวนการให้ร่างกายทำการสะสมพลังงานได้ไม่เต็มที่ ผลคือจะทำให้ร่างกายมีพลังงานสะสมไม่เพียงพอในการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ให้สะอาดแข็งแรงสำหรับวันต่อไป เวลา 23.00-01.00 น. พลังงานที่สร้างขึ้นจะเคลื่อนเข้าสู่ถุงน้ำดี.. ร่างกายจะนำไปล้างถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีแข็งแรง ในการย่อยไขมันที่จะไปเปลี่ยนรูปเป็นฮอร์โมนเปลี่ยนรูปเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ไขสมอง น้ำหล่อเลี้ยงในร่างกายทั้งหมด และจะย่อยไขมันช่วง ห้าทุ่ม ถึงตีหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราไม่พักผ่อนในช่วงนี้ ไขมันพวกนี้จะตกตะกอนอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายเราเช่น ถุงไขมันใต้ตา มีพุง สมองเลอะเลือนง่าย ปวดไหล่ และตรงลำไส้จะปวดท้องง่าย ท้องเสีย หรือท้องผูกง่าย เวลา 01.00 - 03.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ตับ... ตับจะเริ่มทำงานโดยใช้พลังงานที่สะสมไว้ หน้าที่ของตับ คือสะสมอาหารสำรองให้กับร่างกายและกำจัดของเสียให้กับร่างกาย ตลอดจนผลิตน้ำดี และส่งไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ถ้าช่วงนี้เรายังไม่หลับนอน ยังทำงานอยู่ร่างกายจะสูญเสียพลังงานส่วนที่สะสมไว้ไป ตับจะทำงานหนักและอ่อนแอ การสะสมพลังงานสำรองลดลง การผลิตน้ำดีลดลง และจะส่งผลกระทบการทำงานของตับอ่อน ขณะเดียวกันก็ส่งผลการผลิตฮอร์โมนอินซูลีนลดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือโรคภัยไข้เจ็บ คนที่ไม่พักผ่อนในช่วงนี้ จะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตแปรปรวน โรคเก๊าท์ โรครูมาตอยส์ รูมาติซึ่ม อาการภูมิบกพร่องต่างๆ เบาหวาน หัวใจ กระดูกเสื่อม แต่ถ้าพักผ่อนระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวได้ จากตับพลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอดในช่วงเวลาจีสามถึงตีห้า เวลา 03.00 - 05.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอด ถ้าปอดแข็งแรงคุณจะหลับสนิทในช่วงนี้ แต่ถ้าคุณเป็นโรคปอดหรือสูบบุหรี่ จะรู้สึกไม่สบายตัว เราจะถูกปลุกให้ตื่นในช่วงนี้ จะไอและหายใจขัด เพราะพลังงานจะสะสมไว้ฟอกอากาศบริสุทธิ์ เมื่อปอดไม่ดีพลังงานจะสะสมไว้ไม่ได้ และจะส่งผลให้ร่างกายไม่มีอากาศบริสุทธ์ไว้ฟอกโลหิตต่อไป เวลา 05.00 - 07.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ เป็นช่วงที่เราต้องถ่ายอุจจาระ ร่างกายจะต้องเอาของเสียทิ้งให้หมดก่อน 07.00 น. ถ้าไม่ถ่ายในช่วงเวลานี้ ร่างกายจะเริ่มดูดซึมกากของเสียเข้าสู่ระบบเลือด จะดูดซึมของเก่าเข้าไปใช้งาน เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า และในช่วงนี้ควรออกกำลังกายและสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อไปทำให้ลำไส้ใหญ่ขยับตัวและเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนของเสีย จะได้ถ่ายเอาของเสียทิ้งให้หมดก่อนเจ็ดโมงเช้า และให้ลำไส้ใหญ่พร้อมที่จะรับอาหารใหม่เข้ามาในช่วงถัดไปและผลิตเม็ดเลือดส่งให้กับหัวใจเพื่อนำไปเป็นพลังงานไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายต่อไป เวลา 07.00 - 09.00 น. กระเพาะอาหารจะทำงานได้สูงสุดในช่วงนี้เท่านั้น เราจะต้องรับประทานอาหารเช้า เพราะกระเพาะอาหารจะย่อยได้ดีที่สุด และสูงที่สุดในช่วงเวลานี้เท่านั้น ช่วงอื่นๆจะทำได้น้อยกว่า ช่วงนี้กระเพาะอาหารของเราต้องการอาหาร และกระเพาะอาหารจะหลั่งน้ำย่อยมากที่สุดในช่วงนี้ ฉะนั้นพวกที่ไม่กินอาหารเช้า หรือกินอาหารไม่เพียงพอกินแต่เพียงกาแฟ โรคกระเพาะจะถามหาเพราะมันจะย่อยตัวมันเอง ที่สำคัญจะทำให้เกิดโรคหัวใจด้วย เพราะมันไม่ได้สารอาหารสำหรับอวัยวะเพื่อกลับไปสร้างพลังงานรวม เวลา 09.00 - 11.00 น. ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรอง ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรอง เก็บสารอาหาร เก็บทุกอย่างที่กระเพาะย่อยเต็มที่แล้ว และถ้าเราไม่กินเราจะเลี้ยงพลังงานสำรองออกมาใช้ ในขณะที่ดึงพลังงานสำรองออกมาใช้ พลังงานรวมเราจะหายไปเราจะอ่อนเพลีย และเริ่มไม่มีเรี่ยวแรง เวลา 11.00 - 13.00 น. พลังงานจะเคลื่อนที่ไปที่หัวใจ หัวใจเราจะแย่ถ้าไม่มีสารอาหาร เพราะไม่พลังงานจะไปสูบฉีดโลหิตเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย หัวใจจะทำงานหนัก ฉะนั้นคนที่เป็นโรคหัวใจวายมักจะเกิดก่อนเที่ยง หรือหลังจากรับประทานอาหารเที่ยง คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะเป็นโรคหัวใจล้มเหลวได้ง่าย เวลา 13.00 - 15.00 น. พลังงานจะเคลื่อนสู่ลำไส้เล็ก... ถ้าสมมุติเราไม่ได้กินอาหารเช้า อาหารที่มารอย่อยในลำไส้เล็กก็จะไม่มี เราก็จะย่อยลำไส้เล็กของเราแทน ลำไส้เล็กจะเริ่มอ่อนแอ เพราะลำไส้เล็กมีหน้าที่เปลี่ยนรูปพลังงานจากสารอาหารต่างๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ ทุกอย่างตรงนั้นเพื่อให้เป็นพลังงานทั้งหมด ถ้าไม่มีสารอาหารแล้วหรือลำไส้เล็กอ่อนแอร่างกายจะเอาพลังงานที่ไหนมาสะสมหรือใช้ต่อไป เวลา 15.00 - 17.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่กระเพาะปัสสาวะ เมื่อลำไส้เล็กทำงานมากโดยการเปลี่ยนรูปพลังงานมากที่สุด เราจะเริ่มมีของเสีย กระเพาะปัสสาวะจะเริ่มทำงานหนักมากที่สุด ถ้าช่วงนี้ร่างกายขาดน้ำร่างกายก็จะดึงน้ำในส่วนต่างๆของร่างกายออกมาใช้เพื่อขับถ่ายของเสีย กระเพาะปัสสาวะจะทำงานมากที่สุดในช่วงเวลานี้ เวลา17.00 - 19.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่ไต ช่วงเวลานี้เราไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะไตทำงานหนักอยู่แล้ว เพื่อกรองสารพิษหรือขับถ่ายของเสีย ถ้าเราออกกำลังกายอาจทำให้ไตวายได้ หรือเวียนหัวง่าย ตาพร้าง่าย ปวดศีรษะง่าย เวลา 19.00 - 21.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่กล้ามเนื้อหัวใจ หลังจากหนึ่งทุ่มเราต้องพักผ่อนเพราะกล้ามเนื้อหัวใจจะต้องทำหน้าที่ฟอกเลือดที่ร่างกายนำไปใช้วันนี้ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในวันต่อไป ถ้าเราไม่พักผ่อนเลือดเราจะข้น จะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนัก จะไม่ได้ซักล้างตัวเอง จะทำให้เป็นโรคหัวใจโตได้ หลังจากช่วงเวลานี้ร่างกายจะเตรียมพร้อมเพื่อสะสมพลังงานรวมใหม่อีกครั้งเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน จนกว่าร่างกายทั้งระบบจะไม่มีผู้ควบคุมอีกต่อไป คือ ดวงจิต หรือวิญญาณ ร่างกายก็จะตายและกลับคืนสู่สภาพของธรรมชาติที่มาจากธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ 264
คุยสบาย นานาสาระ / ชวนกันมานั่งคุย : )« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 01:08:39 PM »![]() เดินย่ำ ท่ามกลางแดดส่องสดใส อากาศดี๊ดี ![]() มานั่งคุยกัน นะ ที่แห่งนี้ ท่ามกลางสายลมโชยอ่อน ๆ แสงแดดอันอบอุ่น อากาศเย็นสบาย (มาก่อนได้นั่งก่อน มาทีหลังนั่งกะพื้น เป็นเก้าอี้ดนตรีเรย 55+ ) ![]() เสริฟ์กาแฟ ชาร้อนหอม ๆ ซักคนละแก้ว คิดถึงทุกคนนะจ๊ะ ![]() [wma=300,50]http://dc112.4shared.com/img/134478604/56bb99e1/dlink__2Fdownload_2FTtj5HgEM_3Ftsid_3D20100708-013916-79577df0/preview.wma[/wma] 265
ปัญหาชีวิต ความทุกข์ ความรัก / ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านก็คือเพชร« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 12:00:49 PM »ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านก็คือ เพชร เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้งๆ ที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์ ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชร เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม พร้อมๆ กับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ? ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า.... ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว.... ในสถานการณ์เช่นนี้ หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม...เสมือนดั่งเพชร... แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ จนกาลเวลาผ่านไป เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ![]() 266
เสียงของสมาชิกและทีมงาน / Re: เต็มที่เลยน้องบอล ตัดคำว่า เว็บสำรองทิ้งไปเลย« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 11:46:53 AM »
แก้วจ๋าหน้าร้อน ตัวนี้ นี่ตัวเดียวกะที่อยู่หน้ากระป๋องแป้งมาดาม รึเปล่าอะ
แสนรู้อีกละ 555+ |