ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2021, 10:31:33 AM »หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
.
.
มีใครหลายๆคนที่รู้จักหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (หลวงปู่เทพโลกอุดร) เป็นอย่างดี
แต่มีอีกหลายๆคนที่ไม่เคยรู้จักหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
ผมขอมาเล่าให้ฟังโดยย่อ จากประสบการณ์ตรงที่ได้รับมา
.
สมัยก่อนผมเองเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ ชอบถึงขนาดที่ต้องพกกล้องถ่ายรูป (กล้องใหญ่ที่ใช้ฟิล์ม) มาที่ทำงานทุกวัน และในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ที่ออกไปที่ไหนก็ตาม ก็พกกล้องไปด้วยเสมอ
.
เมื่อประมาณปี 2538 ตอนนั้นผมทำงานในสถานที่แห่งหนึ่ง มีอยู่วันหนึ่งที่รุ่นพี่ได้รับรูปพระสงฆ์จากลูกค้า โดยลูกค้าท่านนั้นแจ้งว่า รูปนี้คือ รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร
.
วันนั้น ผมจึงได้ขอถ่ายรูป จากรูปที่พี่ท่านนั้นได้รับมา
ตอนที่ผมนำรูปขึ้นไปบนดาดฟ้า ปรากฎว่า ฟ้าครึ้มมาก (ตอนอยู่ในสำนักงาน ผมเองไม่ได้ดูท้องฟ้าว่า ฝนกำลังจะตกลงมา
ผมนำรูปขึ้นไปยังดาดฟ้า เพื่อที่จะถ่ายรูป โดยใช้แสงแดดช่วยในการถ่ายรูปให้ชัด แต่เมื่อขึ้นไปแล้ว ฟ้าครึ้มมาก ไม่สามารถถ่ายรูปได้เลย ผมจึงยกมือขึ้นพนม แล้วอธิษฐานว่า หากหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรมีจริง ขอให้ฟ้าเปิด เพื่อผมจะขอถ่ายรูปหลวงปู่ฯไว้บูชา
.
หลังจากที่อธิษฐานจบ ปรากฎว่า ฟ้าเปิด เมฆแหวกในบริเวณที่ดวงอาทิตย์อยู่ เมื่อผมเห็นดังนั้น ผมจึงได้รีบดำเนินการถ่ายรูป (ถ่ายไว้หลายรูป) จนเสร็จเรียบร้อย เมื่อผมแกะรูปออกจากผนัง เมฆได้ขยายตัวปิดดวงอาทิตย์ทันที และเมื่อผมเก็บรูปและเดินเข้าไปในอาคาร ฝนก็ได้ตกลงมาอย่างนัก
.
หลังจากวันนั้น ผมได้ตามหาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหนๆ ผมหาซื้อมาอ่านจนหมด และมีความพยายามค้นหาว่า ผมสามารถไปกราบหลวงปู่ฯได้ที่ไหนบ้าง แต่ก็ยังหาข้อมูลที่คิดว่า "ใช่" ไม่ได้เลย
.
ต่อมาเมื่อปี 2548 น้องชายผม ได้ชวนผมไปหา ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร โดยบอกผมว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านเก่งในเรื่องของพระกรุวัดพระแก้ว ผมจึงตอบตกลง และไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ เมื่อไปพบท่านอาจารย์ประถมฯแล้ว ผมจึงได้ขออนุญาตท่านว่า ผมจะกลับมาหาท่านใหม่
.
ต่อมาผมก็ได้ไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ อีก ท่านจึงได้ให้หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร มาให้ท่าน และผมจึงได้เริ่มศึกษาในเรื่องประวัติของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ เรื่องพระวังหน้า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และเรียนรู้พระวังหน้า (ในช่วงแรกๆ ท่านได้นำพระวังหน้าของท่านมาให้ผมได้เห็น ได้ศึกษา ต่อมาผมจึงได้ไปหาพระวังหน้า แล้วนำมาให้ท่านช่วยสอนให้ ส่วนสถานที่ที่ผมไปหาพระวังหน้าที่ผมได้มาจากใคร ผมขอปิดไว้เป็นความลับ )
.
เมื่อผมได้พบกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผมจึงได้เรียนรู้ในเรื่องที่ถูกต้อง เรื่องประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ พระวังหน้า ส่วนข้อมูลอื่นที่เคยได้อ่านมาจากในหนังสือที่เคยได้ซื้อมาก่อนหน้า(ที่จะได้พบกับอาจารย์ประถมฯ) ผมก็ไม่ได้นำมาใช้ในการเผยแพร่ประวัติของหลวงปู่ฯและพระวังหน้า อีกเลย
.
ต่อมาเมื่อประมาณเดือน มกราคม 2550 ผมเองได้รับการยืนยันในเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างพระวังหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ อัศจรรย์ และ มหัศจรรย์ สำหรับตัวผมเอง โดยท่านผู้ให้สร้างก็คือ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ท่านมาหาผม ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ท่านมาในรูปของ พระภิกษุ ท่านมายืนยันในเจตนาที่ท่านให้สร้างพระวังหน้าขึ้น (เรื่องนี้ผมเคยเล่าไปแล้ว)
.
ความรู้เดิมที่ผมเคยได้รับทราบมา เวลาที่กราบไหว้หลวงปู่ฯ จะใช้คำไหว้ ดังนี้
โลกุตตะโร จะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
แต่ท่านอาจารย์ประถมฯ ท่านบอกผมว่า หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ท่านไม่ได้มาองค์เดียว แต่ท่านมาเป็นคณะ นั่นก็คือ คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ที่เป็นคณะพระธรรมทูตที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิเป็นคณะแรก และแกนหลักของคณะโสณะอุตระ มีพระภิกษูสงฆ์ 5 รูป ดังนั้น เวลาที่กราบไหว้หลวงปู่ฯ ให้กราบหลวงปู่ฯที่เป็นแกนหลักทั้ง 5 รูป จะดีที่สุด
.
พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทรงกระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก แล้วอาราธนาพระมหาโมคคัลลีปุตตติสสเถระเป็นประธานคัดเลือกพระธรรมทูต และได้เลือกพระโสณะ พระอุตระ พระมูนิยะ พระฌาณิยะ พระภูริยะ อีกทั้งพรามณ์ , อุบาสก และอุบาสิกา รวม 38 คน เป็นคณะพระธรรมทูตมายังสุวรรณภูมิประเทศ
.
ผมจึงใช้คำไหว้หลวงปู่ ตามคำไหว้ ดังนี้
โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
หลังจากที่ผมได้พบกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ที่ผมเคารพท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ และ เป็นครูบาอาจาย์ ผมการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องประวัติที่ถูกต้องของ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ ท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องพระวังหน้ามากที่สุด ที่ผมการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้รู้อันดับ 1 ของโลกในปัจจุบันนี้ และท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) ทำให้ผมได้พบกับ บุคคลที่ผมนับถือเป็นครูบาอาจาย์ ที่ผมสามารถการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้รู้อันดับ 2 ของโลกในปัจจุบัน (ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ขอไม่เปิดเผยชื่อ)
.
ผมได้พบกับ พระภิกษุ 2 รูป ที่ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
รูปแรก คือ พระอาจารย์ณริชธันร์ ศรีอิทธิมนต์ (ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าภัทรปิยาราม ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี) ตอนที่ผมรู้จักท่านครั้งแรก ท่านเป็นฆราวาส แต่ต่อมาท่านได้บวชเป็นพระภิกษุ ผมเองได้ติดตามและร่วมทำบุญในวาระงานบุญต่างๆของท่านอยู่เสมอ อีกทั้งถ้ามีโอกาส ผมเดินทางไปกราบท่านอยู่บ่อยครั้ง
.
รูปที่สอง คือ พระอาจารย์ธวัชชัย ชาครธมฺโม (หลวงพี่นิล) (ปัจจุบันท่านอยู่ที่ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร ตอนที่ผมรู้จักท่านครั้งแรก ท่านไปหาผมที่บ้านท่านอาจารย์ประถมฯ ท่านไป 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้เจอกับผม เนื่องจากวันที่ท่านไป ผมไม่ได้ไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ แต่ท่านได้อธิษฐานขอให้ได้พบกับผม ในครั้งที่ 3 ผมได้พบกับหลวงพี่นิล ที่บ้านท่านอาจารย์ประถมฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปช่วยบอกบุญในวาระการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ผมจึงได้ไปช่วยท่านบอกบุญ และร่วมทำบุญ จนกระทั่งการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งจนเสร็จ
.
แต่ในระหว่างที่บอกบุญการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ได้มีงานบุญอื่นๆ ที่ผมได้ช่วยท่านบอกบุญ เช่น งานกฐินตกค้างพระราชทาน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ งานกฐินพระราชทาน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นงานบุญที่ใหญ่มาก โดยงานครั้งแรกเริ่มในปี 2553 จนถึงปี 2559 (และโอกาสที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในชีวิต คือ ปี 2557 , 2558 และ 2559 ผมได้มีโอกาสถือผ้าไตรพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช) ) เป็นต้น
.
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2558 ผมได้ไปช่วยหลวงพี่นิล ในการสร้างอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ที่ปัจจุบัน ผมยังคงช่วยบอกบุญและร่วมทำบุญในวาระงานบุญต่างๆของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร
.
อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ ผมได้พบกับ กัลยาณมิตรที่ดี ที่ร่วมทำบุญกันในหลายๆงานบุญ ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดมา และ ได้ร่วมกันเผยแพร่ประวัติที่ถูกต้องของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ พระวังหน้า
.
ผมและกัลยาณมิตร ได้ร่วมกันตั้งชมรมพระวังหน้าขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องราวที่ถูกต้องของพระวังหน้า โดยตั้งชมรมพระวังหน้าขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2553
.
sithiphong
Noom Wangna
20 กุมภาพันธ์ 2564
.
#พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
.
#พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
.
#พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพธิ์
.
#พระฌาณียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี
.
#พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
#หลวงปู่เทพโลกอุดร
.
#คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
.
#หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
.
#อาจารย์ประถมอาจสาคร
.
#ชมรมพระวังหน้า
.
#พระวังหน้า
.
ที่มาของรูป
รูปคณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ผู้วาดคือ คุณสุกิจ เยี่ยงอร่ามกุล
รูป(วาด)หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ผู้วาดไม่ทราบชื่อ เป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งของพันเอกชม สุคันธรัตน์
ขอขอบพระคุณท่านผู้วาดทั้งสองท่าน
.