ข้อความโดย: สายลมที่หวังดี
« เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 11:37:11 PM »
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
ข้อความโดย: สายลมที่หวังดี« เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 11:37:11 PM »![]() ข้อความโดย: แปดคิว« เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 07:08:17 PM »![]() ![]() ![]() ข้อความโดย: ฐิตา« เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 04:13:25 PM »![]() สิ่งทั้งหลายก็ทุกข์ต่อไป.. แต่ใจอิสระ ~พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ~ สิ่งทั้งหลายก็ทุกข์ต่อไปตามเรื่องของธรรมชาติ แต่ใจเราเป็นอิสระมีสุขที่สมบูรณ์... สิ่งทั้งหลายที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีความเปลี่ยนแปลงเป็น ไปต่างๆ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นเป็นธรรมดา เพราะมันอยู่ในกฏธรรมชาติอย่างนั้น ไม่มีใครไปแก้ไขได้ แต่ที่มันเป็นปัญหา ก็เพราะว่าในเวลาที่มันแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปตามกฏธรรมชาตินั้น มันพลอยมาเบียดเบียนจิตใจของเราด้วย เพราะอะไร...? เพราะเรายื่นแหย่ใจของเราเข้าไปใต้อิทธิพลความผันผวนปรวนแปร ของธรรมชาตินั้นด้วย ดังนั้น เมื่อสิ่งเหล่านั้นปรวนแปร ไปอย่างไรใจของเราก็พลอยแปรปรวนไปอย่างนั้นด้วย เมื่อมันมีอัน เป็นไป ใจของเราก็ถูกบีบคั้นไม่สบาย.. แต่พอเรารู้เท่าทันถึงธรรมดาแล้ว กฎธรรมชาติก็เป็นกฎธรรมชาติ สิ่งทั้งหลายที่เป็นธรรมชาติ ก็เป็นไปตามกฎธรรมชาติ ทำไมเราจะต้องเอาใจของเราไปให้กฎธรรมชาติบีบคั้นด้วย เราก็วางใจ ของเราได้ ความทุกข์ที่มีในธรรมชาติ ก็เป็นของธรรมชาติไป ใจของเราไม่ต้องเป็นทุกข์ไปด้วย ตอนนี้แหละที่ท่านเรียกว่ามีจิตใจเป็นอิสระ จนกระทั่งว่า แม้แต่ทุกข์ที่มีในกฎของธรรมชาติ ก็ไม่สามารถ มาเบียดเบียนบีบคั้นใจเราได้ เป็นอิสรภาพแท้จริง ที่ท่านเรียกว่า...'วิมุตติ' เมื่อพัฒนามาถึงขั้นนี้ เราก็จะแยกได้ระหว่างการปฏิบัติต่อสิ่งทั้งหลายภายนอก กับการเป็นอยู่ของชีวิตจิตใจภายในของเรา กล่าวคือสำหรับ สิ่งทั้งหลายภายนอก ก็ยกให้เป็นภาระของปัญญาที่จะศึกษา และกระทำไป ให้ทันกัน ถึงกันกับกระบวนการแห่งเหตุปัจจัยของธรรมชาติ ให้ได้ผลดีที่สุด ส่วนภายในจิตใจก็คงอยู่เป็นอิสระ พร้อมด้วยความสุข ความสุขจากความเป็นอิสระถึงวิมุตติที่มีปัญญารู้เท่าทันพร้อมอยู่นี้ เป็นความสุขที่สำคัญ พอถึงสุขเช่นนั้นแล้ว เราก็ไม่ต้องไปพึ่งอาศัย สิ่งอื่นอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม มันจะกลายเป็นความสุข ที่เต็มอยู่ในใจของเราเลย และเป็นสุขที่มีอยู่ประจำอยู่ตลอดทุกเวลา เป็นปัจจุบัน ความสุขที่เรานึกถึงหรือใฝ่ฝันกันอยู่นี้ มักเป็นความสุขที่อยู่ในอนาคต คือเป็นความสุขที่หวังอยู่ข้างหน้าและอิงอาศัยสิ่งอื่น แต่พอมีปัญญารู้ เท่าทันความจริงแล้ว จะเกิดความสุขที่อยู่ในตัวเป็นประจำและมีอยู่ตลอด ทุกเวลา เป็นปัจจุบันทุกขณะ กลายเป็นว่าความสุขเป็นเนื้อเป็นตัว เป็น ชีวิตจิตใจของเราเอง พอถึงตอนนี้ก็ไม่ต้องหาความสุขอะไรอีก ถ้ามีอะไรมาเสริมให้ความสุขเพิ่มขึ้น เราก็มีความสุขที่เป็นส่วนแถม และเราก็มีสิทธิ์เลือกตามสบายว่า จะเอาความสุขนั้นหรือไม่ ไม่มีปัญหา และเมื่อสุขแถมนั้นไม่มี ก็ไม่เป็นไร เราก็สุขอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ท่านเรียกว่า ไม่มีอะไรต้องทำเพื่อตนเองอีก พลังงานชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ยกให้เป็นประโยชน์แก่โลกไป นี่แหละเป็นสุขที่สมบูรณ์ และก็เป็นชีวิตที่สมบูรณ์ด้วย...ฯ ~พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปนุตฺโต) ~ ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ www bhodhiyalaya.com Pics by : Google อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ |